ในระบบโรงสีข้าวที่ใช้งานเครื่องจักรด้วยลมอัด ความสะอาดของระบบลมถือเป็นสิ่งสำคัญที่มักถูกมองข้าม หลายคนคิดว่าแค่ปั๊มลมเดินได้ ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว แต่รู้หรือไม่ว่า “ลมที่สกปรก” คือสาเหตุลับที่ทำให้โรงสีขัดข้อง เสียเวลา และต้องเสียเงินซ่อมไม่รู้ตัว

บทความนี้จะชี้ให้คุณเห็น 4 สัญญาณเตือนสำคัญ ที่ถ้าพบเจอในโรงสีเมื่อไหร่ ต้องรีบล้างระบบลมทันที ก่อนที่อุปกรณ์หลักจะพังเสียหาย และเกิดการหยุดผลิตแบบไม่ทันตั้งตัว

สัญญาณที่ 1: เครื่องคัดข้าวหรือเครื่องแพ็คทำงานผิดพลาดบ่อยขึ้น

เครื่องจักรที่ใช้ระบบลม เช่น เครื่องคัดข้าวอัตโนมัติ, เครื่องแพ็ค, หัวเป่าลม ฯลฯ ต้องการลมที่สะอาดและแรงดันคงที่ในการทำงาน

ถ้าลมเริ่มมีน้ำมัน หรือฝุ่นปะปน อาจทำให้เกิดปัญหา:

  • วาล์วลมเปิด–ปิดผิดจังหวะ
  • ระบบควบคุม error บ่อย ๆ ต้อง reset
  • แพ็คข้าวผิดไซซ์หรือไม่ได้มาตรฐาน

แนวทางแก้: ตรวจสอบคุณภาพลมด้วยการเปิดปลายสายดูว่า มีน้ำมันหรือคราบน้ำหรือไม่ ถ้ามี ให้เตรียมล้างระบบท่อลม และเปลี่ยนกรองทันที

สัญญาณที่ 2: วาล์วลมหรือหัวเป่าลมอุดตันบ่อยผิดปกติ

ฝุ่นจากข้าวรวมกับน้ำมันจากปั๊มลม หากเข้าสู่ระบบ จะกลายเป็นตะกอนเหนียวเกาะตามวาล์วและหัวจ่ายลม ส่งผลให้เกิดอาการ:

  • ลมเป่าไม่ออก หรือออกน้อย
  • ต้องเปลี่ยนหัววาล์วบ่อย
  • เครื่องชะงักกลางไลน์ผลิต

แนวทางแก้:

  • ล้างท่อลมด้วยน้ำยาทำความสะอาดเฉพาะทาง
  • เปลี่ยนกรองอากาศ กรองน้ำมัน และ Separator
  • ตรวจสอบว่าไม่ได้ใช้น้ำมันปั๊มลมคุณภาพต่ำ

สัญญาณที่ 3: ลมที่ปล่อยออกมามีกลิ่นเหม็นไหม้ หรือมีละอองน้ำมันปน

นี่คือสัญญาณว่าระบบกรองภายในปั๊มลมเริ่มเสื่อม ไม่สามารถแยกน้ำมันได้ดีอีกต่อไป ทำให้ลมที่ออกมาปนเปื้อนสารตกค้าง และส่งผลต่อเครื่องจักรในสายการผลิต

ผลกระทบ:

  • เครื่องเสียหายเร็ว เพราะน้ำมันรั่วไปติดอุปกรณ์
  • ต้องหยุดงานบ่อยเพื่อเช็ดล้าง
  • ข้าวที่แพ็คออกมาอาจมีปัญหาด้านความสะอาด

แนวทางแก้:

  • เปลี่ยน Oil Separator ทุก 4,000 ชั่วโมง
  • เปลี่ยนน้ำมันปั๊มลมที่ใช้มานานเกินรอบ
  • ตรวจสอบท่อลมว่าไม่มีน้ำมันขังหรือตะกอนสะสม

สัญญาณที่ 4: ระบบลมมีน้ำขัง / มีเสียงผิดปกติขณะใช้งาน

ในโรงสีข้าวที่มีความชื้นสูง น้ำจากอากาศมักควบแน่นในท่อลม หากไม่มีระบบแยกน้ำ หรือไม่ได้ล้างท่อมานาน อาจเกิด:

  • น้ำขังในท่อลม → ลมเป่าไม่สม่ำเสมอ
  • เสียงดังจากวาล์วตอนมีน้ำกระแทก
  • เครื่องจักรเกิดสนิมภายใน

แนวทางแก้:

  • ติดตั้งตัวกรองน้ำ (Mainline Filter) หรือ Auto Drain
  • ล้างท่อลม และเปลี่ยนซีลใหม่หากมีรอยรั่ว
  • ตรวจสอบถังลมว่าระบายน้ำออกบ่อยหรือไม่

ล้างระบบลมควรทำบ่อยแค่ไหน?

ขึ้นกับลักษณะการใช้งานของแต่ละโรงสี โดยคำแนะนำทั่วไป:

  • ทุก 6 เดือน ควรล้างท่อลม และวาล์วภายในระบบทั้งหมด
  • เปลี่ยนกรองทุก 3,000 – 4,000 ชั่วโมง
  • เช็กน้ำในถังลมและตัวกรองอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง
  • ใช้น้ำมันปั๊มลมคุณภาพดี เพื่อลดคราบตกค้าง

หากละเลย จะเกิดอะไรขึ้น?

  • ปั๊มลมทำงานหนักกว่าปกติ → กินไฟ เสื่อมไว
  • เครื่องในสายการผลิตเสียบ่อย ต้องหยุดงานซ้ำ ๆ
  • เสียความเชื่อมั่นจากลูกค้า ถ้าคุณภาพข้าวบรรจุผิดพลาด
  • ต้องเปลี่ยนอะไหล่ทีละหลายชิ้นในเวลาใกล้กัน ทำให้เสียค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่

SSP Compressor Part มีบริการช่วยดูแล

  • อะไหล่คุณภาพสูง เช่น Air Filter, Oil Filter, Oil Separator
  • น้ำมันปั๊มลมเกรดโรงงาน ลดคราบ ลดตะกอน
  • บริการตรวจระบบลม และล้างระบบครบวงจรโดยทีมช่างมืออาชีพ
  • บริการจัดส่งอะไหล่ด่วน ภายใน 24 ชม.

สรุป

ระบบลมในโรงสีข้าวอาจไม่ได้อยู่ในสายตาทุกวัน แต่เป็นระบบสำคัญที่เกี่ยวข้องกับทุกขั้นตอนการผลิต หากเริ่มเห็น 1 ใน 4 สัญญาณเตือนที่กล่าวมา อย่ารอให้เครื่องเสียก่อน ควรรีบดำเนินการล้างระบบลมโดยด่วน เพื่อยืดอายุอุปกรณ์ ลดการหยุดไลน์ผลิต และรักษากำไรของโรงสีไว้ได้อย่างมั่นคง

 

ติดต่อเราเพื่อขอคำปรึกษาฟรี

 

📞 098-507-2241 📞 065-190-5999