รู้ไหมว่าแค่ “ลมรั่ว” ในระบบท่อลมของโรงสี อาจทำให้ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว? ไม่ใช่เรื่องเล็กเลย เพราะระบบปั๊มลมที่ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อทดแทนลมที่รั่วนั้น กินไฟมากกว่าปกติหลายเท่า แถมยังทำให้ปั๊มลมเสื่อมไว และเสี่ยงทำให้เครื่องจักรขัดข้องบ่อยอีกด้วย

บทความนี้จะพาคุณเรียนรู้วิธีตรวจเช็กลมรั่วในโรงสีข้าวแบบง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง พร้อมแนวทางป้องกันและแก้ไขที่ช่วยลดต้นทุนค่าไฟได้จริง

ทำไมลมรั่วถึงอันตราย?

ลมรั่ว = เงินรั่ว นี่ไม่ใช่คำพูดเกินจริง เพราะงานวิจัยหลายแห่งพบว่า โรงงานทั่วไปมีลมรั่วเฉลี่ย 20–30% จากลมที่ผลิตทั้งหมด หากไม่มีการตรวจสอบหรือแก้ไขอย่างเหมาะสม ลมเหล่านี้จะ:

  • ทำให้ปั๊มลมทำงานนานกว่าที่ควร
  • สิ้นเปลืองพลังงานโดยเปล่าประโยชน์
  • ทำให้แรงดันลมไม่สม่ำเสมอ ส่งผลต่อการทำงานของเครื่องจักร
  • เพิ่มอุณหภูมิและความชื้นในระบบ

สำหรับโรงสีข้าวที่ต้องใช้ลมอย่างต่อเนื่อง เช่น การเป่าข้าว การแพ็ค หรือควบคุมวาล์วอัตโนมัติ ความสม่ำเสมอของแรงดันลมจึงเป็นหัวใจสำคัญ การรั่วแม้เพียงจุดเดียวก็สร้างความเสียหายทั้งระบบได้

จุดที่มักเกิดลมรั่วในโรงสี

  1. ข้อต่อท่อแอร์ (Fittings) ที่หลวม / ซีลเสื่อม
  2. วาล์วเปิด–ปิดลมที่ไม่สนิท
  3. ท่อ PE / ท่อทองแดงแตกร้าวจากอายุการใช้งาน
  4. ข้อต่อเกลียวที่มีคราบน้ำมันและฝุ่น
  5. เครื่องจักรที่ไม่ได้ใช้งานแต่ยังเปิดระบบลมค้างไว้

วิธีตรวจเช็กลมรั่วด้วยตัวเอง

1. ใช้หูฟัง (ตรวจแบบง่ายสุด)

  • เดินตรวจตามแนวท่อในเวลาที่ไม่มีเครื่องจักรทำงาน
  • เงี่ยหูฟังเสียง “ฟี้ ฟี้” หรือเสียงลมซึมตามข้อต่อ
  • ใช้ท่อสายยางเล็ก ๆ ยื่นใกล้จุดสงสัย เพื่อช่วยขยายเสียงลมรั่ว

2. ใช้ฟองสบู่ (แม่บ้านโรงสีช่วยได้)

  • ผสมน้ำกับน้ำยาล้างจานในขวดสเปรย์
  • ฉีดไปตามข้อต่อ วาล์ว หรือท่อที่สงสัย
  • ถ้ามีฟองอากาศปุด ๆ ขึ้น = มีจุดรั่ว

3. ตรวจจากแรงดันตก (Pressure Drop)

  • ปิดเครื่องจักรทุกตัว แต่เปิดปั๊มลมให้ทำงาน
  • ตรวจเกจแรงดันหน้าถัง ว่าแรงดันลดลงหรือไม่เมื่อไม่มีการใช้งาน
  • ถ้าลดลงเกิน 5–10% ภายใน 10 นาที แปลว่าระบบมีจุดรั่ว

4. ใช้อุปกรณ์ Ultrasonic Leak Detector (ถ้ามี)

  • เครื่องมือนี้สามารถตรวจลมรั่วที่เสียงเบามาก ๆ ได้
  • ใช้งานโดยช่างเทคนิค หรือฝ่ายซ่อมบำรุงที่มีเครื่องมือ

แนวทางแก้ไขลมรั่ว

  • เปลี่ยนข้อต่อที่เสื่อมสภาพ หรือมีรอยรั่ว
  • ใช้เทปพันเกลียว (Thread Seal Tape) ที่มีคุณภาพ
  • เปลี่ยนซีลยางใหม่ในวาล์วที่รั่ว
  • ปิดวาล์วเครื่องจักรที่ไม่ได้ใช้งานเป็นประจำ
  • ตั้งระบบ Auto Drain ให้ระบายน้ำอัตโนมัติ ลดความชื้นในท่อ

ลมรั่วทำให้ปั๊มลมเสื่อมเร็วจริงไหม?

คำตอบคือ “จริงมาก” เพราะ:

  • ปั๊มลมต้องเดินถี่ขึ้นเพราะแรงดันตกไว
  • น้ำมันในระบบปั๊มลมร้อนจัด เพราะทำงานนานเกินปกติ
  • ชิ้นส่วนในหัวปั๊มเสื่อมก่อนเวลา เช่น แบริ่ง, ซีล, โอริง
  • อุปกรณ์ downstream เช่น Filter, Dryer, Valve ทำงานหนักตาม

หากปล่อยลมรั่วไว้ไม่แก้ไข อาจต้องจ่ายค่าซ่อมหัวปั๊มหลักหมื่น ทั้งที่ต้นเหตุมาจากแค่ข้อต่อราคาไม่ถึง 50 บาท

วิธีประเมินความเสียหายจากลมรั่ว

การประเมินนี้คำนวณจาก:

  • อัตราลมรั่ว (ลิตร/นาที หรือ CFM)
  • ค่าไฟฟ้าต่อหน่วย
  • ชั่วโมงการใช้งานต่อวัน
  • ประสิทธิภาพของปั๊มลม (kW/100 CFM)

เช่น ลมรั่ว 5 CFM = ปั๊มลมกินไฟเพิ่ม ~1.5 kW → ถ้าเดินวันละ 12 ชม. × 30 วัน × ค่าไฟ 4 บาท → คุณจ่ายเพิ่ม ~2,000 บาท/เดือน จากลมรั่วเล็ก ๆ เพียงจุดเดียว

ทำระบบลมให้คุ้มค่า ด้วย SSP Compressor Part

  • เรามีชุด Service Kits สำหรับซ่อมข้อต่อ วาล์ว และซีล
  • มีทีมช่างให้บริการตรวจระบบลมถึงโรงสี (ในเขตบริการ)
  • จำหน่ายอะไหล่ปั๊มลมทุกประเภท: Air Filter, Oil Filter, Separator
  • น้ำมันปั๊มลมคุณภาพ ลดแรงเสียดทาน ไม่รั่วซึมง่าย
  • จัดส่งรวดเร็วภายใน 24 ชม. ทั่วประเทศ

สรุป

การตรวจเช็กลมรั่วเป็นเรื่องที่เจ้าของโรงสีทุกคนควรทำเป็นประจำ เพราะมันช่วยลดค่าไฟ ดูแลเครื่องจักรให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และยืดอายุปั๊มลมในระบบได้ยาวนาน หากคุณยังไม่เคยตรวจเลย ลองใช้วิธีง่าย ๆ ด้านบนเริ่มต้นได้ทันทีวันนี้ ประหยัดไฟได้เป็นพันบาทต่อเดือนแน่นอน

 

ติดต่อเราเพื่อขอคำปรึกษาฟรี

 

📞 098-507-2241 📞 065-190-5999