ถ้าใครอยู่ในวงการโรงสีข้าวจะรู้ดีว่า “ระบบลม” คือหัวใจสำคัญของการเดินเครื่องในแต่ละวัน ทั้งวาล์วลม, ระบบลำเลียง, เครื่องชั่ง หรือแม้แต่การควบคุมสายพาน ก็ล้วนต้องพึ่งแรงลมที่นิ่ง สม่ำเสมอ และมีแรงดันที่ไว้ใจได้
แล้วคำถามคือ…จะเลือกปั๊มลมรุ่นไหนดีสำหรับโรงสี?
วันนี้เรารวบรวมมาให้ครบ! กับ 5 รุ่นปั๊มลมยอดนิยมที่ช่างเทคนิคสายโรงสีแนะนำว่าทน อึด ซ่อมน้อย และเหมาะกับงานหนัก โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นมากและต้องเดินเครื่องทั้งวัน
1. Atlas Copco GA Series (GA 15 – GA 30)

แบรนด์จากยุโรปที่ขึ้นชื่อเรื่องความเสถียรและเทคโนโลยีขั้นสูง รุ่น GA เหมาะสำหรับโรงสีข้าวที่ต้องการลมแบบต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง
จุดเด่น:
- ประหยัดพลังงานด้วยระบบ Variable Speed Drive
- มีระบบแยกน้ำมันลมในตัว ช่วยให้ลมสะอาด
- ตัวเครื่องระบายความร้อนได้ดี
ข้อสังเกต:
- ราคาค่อนข้างสูง แต่คุ้มระยะยาว
2. Hitachi OSP Screw Compressor (OSP-22M5 / OSP-37M5)

ปั๊มลมสัญชาติญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องความทน ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมหนักทั่วเอเชีย
จุดเด่น:
- ค่าบำรุงรักษาต่ำ ซ่อมน้อย
- โครงสร้างเครื่องออกแบบให้ทนฝุ่นและความชื้นสูง
- ให้แรงดันสม่ำเสมอ แม้โหลดขึ้นลงทั้งวัน
ข้อสังเกต:
- ต้องติดตั้งโดยช่างที่ชำนาญระบบไฟฟ้า
3. Kaeser SK Series (SK 22 / SK 25)

📌 ปั๊มลมเยอรมัน ที่โดดเด่นในเรื่องคุณภาพของอากาศและการออกแบบเครื่องให้ระบายความร้อนดีเยี่ยม
จุดเด่น:
- ใช้น้ำมันเฉพาะสูตรพิเศษจากแบรนด์ ช่วยยืดอายุเครื่อง
- ตัวเครื่องเงียบ เหมาะกับโรงสีในพื้นที่ชุมชน
- ระบบควบคุมอัจฉริยะ SIGMA CONTROL 2
ข้อสังเกต:
- ราคาน้ำมันเฉพาะของแบรนด์ค่อนข้างสูง
4. Fusheng SA Series (SA22A / SA37A)

📌 แบรนด์ไต้หวันที่ได้รับความนิยมสูงในไทย โดยเฉพาะกลุ่มโรงสีและโรงงานขนาดกลาง
จุดเด่น:
- ราคาเข้าถึงง่าย อะไหล่หาง่าย
- ระบบกรองลมดี ป้องกันฝุ่นจากโรงสีได้ดี
- ใช้น้ำมันมาตรฐานทั่วไป ไม่จำกัดยี่ห้อ
ข้อสังเกต:
- เสียงเครื่องดังพอสมควรถ้าไม่มีตู้เก็บเสียง
5. Ingersoll Rand R-Series (RS22i / RS30i)

📌 ปั๊มลมจากอเมริกาที่ขึ้นชื่อว่าถึกทน เหมาะกับโรงสีขนาดกลางถึงใหญ่ที่เน้นการผลิตต่อเนื่อง
จุดเด่น:
- ประสิทธิภาพสูง ประหยัดพลังงาน
- ระบบคุมอัจฉริยะ “Xe-Series Controller”
- เหมาะกับงานต่อเนื่อง 24 ชม.
ข้อสังเกต:
- ต้องใช้กรองและน้ำมันเฉพาะเท่านั้น
สรุป: เลือกให้เหมาะกับ “โหลดงาน” และ “งบประมาณ”
ถ้าโรงสีของคุณเปิดวันละ 8 ชั่วโมง → Fusheng / Hitachi จะตอบโจทย์เรื่องราคาและการบำรุงรักษา
แต่ถ้าคุณเปิด 16–24 ชั่วโมง → Atlas Copco / Kaeser / Ingersoll Rand คือทางเลือกที่แม้จะลงทุนมากขึ้น แต่ลดโอกาสเสียกลางไลน์ผลิตได้อย่างเห็นผล
แนะนำเพิ่มเติมจากช่างโรงสี: เลือกปั๊มลมแล้ว อย่าลืมดูเรื่องอะไหล่และน้ำมันด้วย!
- ✅ เลือกแบรนด์ที่มีอะไหล่พร้อมบริการ
- ✅ ใช้น้ำมันที่เหมาะกับเบอร์และรุ่นเครื่อง
- ✅ ตั้งรอบเปลี่ยนกรอง / น้ำมัน / Oil Separator ให้ชัดเจน
หากคุณกำลังมองหาอะไหล่แท้ เทียบเท่า หรือชุด Service Kits สำหรับปั๊มลมในโรงสี ไม่ว่าจะใช้แบรนด์ไหน ก็สามารถติดต่อ SSP COMPRESSOR PART ได้เลย เรามีทุกอย่างที่ช่างต้องการ พร้อมจัดส่งทั่วไทย! ⚙️💨