ฟังไว้นะช่าง! ถ้าโรงสีของคุณเริ่มมีอาการลมตก เครื่องทำงานหนัก เสียงดังผิดปกติ หรือมีน้ำมันไหลย้อน… บอกเลยว่า “ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ” แต่มันคือ “สัญญาณชัด ๆ” ว่ากรองปั๊มลมของคุณ ใกล้พังเต็มที!
อย่ารอให้เครื่องดับกลางไลน์การผลิต หรือหัวปั๊มไหม้จนต้องยกเข้าอู่ เพราะ “กรองแค่ชิ้นละไม่กี่ร้อย” ถ้าเปลี่ยนไม่ทัน อาจทำให้คุณเสียหลักแสน!
วันนี้พี่ช่างจะมาบอกให้รู้แบบตรง ๆ ว่า สัญญาณอะไรบ้าง ที่ควรเปลี่ยนกรองทันที และควรเลือกกรองแบบไหนที่คุ้ม ใช้แล้วเครื่องเดินนิ่ง ไม่มีสะดุดในโรงสีข้าว!
1. ลมเริ่มอ่อน หัวปั๊มหมุนหนัก เสียงเปลี่ยน
ฟังเสียงเครื่องไม่เหมือนเดิมใช่ไหม? จากที่เคยนุ่ม ๆ กลายเป็นเสียงคราง เสียงหอน บอกเลยว่า “กรองอากาศตันแน่ ๆ”
กรองตัน = ลมเข้าไม่พอ = เครื่องต้องหมุนแรงขึ้น = กินไฟ + ร้อนเร็ว = เครื่องพังเร็ว
วิธีแก้:
- เช็กกรองอากาศ ถ้าเป่าฝุ่นแล้วยังตัน → เปลี่ยนทันที!
- อย่าดื้อใช้ต่อ เพราะเสียงเปลี่ยนคือของจริง ไม่ใช่แค่คิดไปเอง
2. แรงดันลมตกกะทันหัน หรือขึ้นไม่ถึงเป้าหมาย
ถ้าลมที่ออกมาไม่คงที่ ขึ้น ๆ ลง ๆ โดยเฉพาะเวลาเปิดหลายเครื่องพร้อมกัน ให้สงสัยไว้ก่อนว่า กรองแยกน้ำมันเริ่มตัน แล้ว
ไส้กรองที่ตันจะเพิ่มแรงดันต้าน ทำให้ปั๊มลมทำงานหนักขึ้นกว่าปกติ แต่ได้ลมเท่าเดิม หรือแย่กว่านั้น คือลมไม่พอใช้งานเลย
วิธีแก้:
- ติดตั้งเกจวัดแรงดันก่อน–หลังกรอง เพื่อตรวจเช็กค่าต่าง (Initial Differential Pressure)
- ถ้าแรงดันตกเกิน 0.2 Mpa → เปลี่ยน Oil Separator ด่วน!
3. มีน้ำมันปนมากับลม ใช้มือเช็ดแล้วเหนียว
ข้อนี้ชัดเลย ไม่ต้องวัดให้ยุ่ง… ถ้าลมที่ปลายทางมีคราบน้ำมันปน เช่น ที่ Blow Valve, ถังลำเลียง หรือหัวจ่ายลม
มันคือ “สัญญาณชัดเจน” ว่า Oil Separator เสื่อมสภาพเต็มขั้น
ถ้าคุณปล่อยให้ลมพ่นน้ำมันต่อไป:
- วาล์วอัตโนมัติในโรงสีจะเสีย
- ถังลมจะมีตะกอนน้ำมันเกาะ
- เครื่อง downstream จะพังแบบไร้เยียวยา
วิธีแก้:
- เปลี่ยน Oil Separator ทุก 4,000 ชั่วโมง หรือเร็วกว่านั้น ถ้าใช้งานหนัก
4. น้ำมันดำ / มีเศษตะกอนในตอนถ่ายออก
น้ำมันปั๊มลมที่ดีจะใส หรือขุ่นเล็กน้อย แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ถ่ายออกแล้วเห็นเศษโลหะ คราบไหม้ หรือดำปี๋ แปลว่า กรองน้ำมันไม่ทำงานแล้ว!
คุณกำลังปล่อยให้น้ำมันสกปรก ไหลผ่านระบบทั้งหมด และกัดเครื่องอยู่ทุกนาที
วิธีแก้:
- เปลี่ยนกรองน้ำมันทุก 3,000 ชั่วโมง
- ใช้น้ำมันหล่อลื่นที่เหมาะกับรุ่น เช่น เบอร์ 32 / 46 / 68 ตามสภาพอากาศและโหลดงาน
5. ระบบเริ่มมีลมรั่วบ่อย ซีล / โอริงพังไวผิดปกติ
ช่างสายประหยัดบางคนชอบ “ล้างกรองแล้วใส่กลับ” หรือ “กรองไม่แท้ถูก ๆ” เพื่อเซฟงบ แต่รู้ไหม? มันจะทำให้ระบบสั่นสะเทือนมากขึ้น จนโอริงกับซีลรั่วเร็วกว่าเดิม
วิธีแก้:
- เปลี่ยนกรองให้ตรงรุ่น และมีมาตรฐาน QC
- อย่าใช้กรองที่ไม่มีข้อมูล Initial Pressure หรือวัสดุไส้กรองคุณภาพต่ำ
เคล็ดลับสำหรับช่างโรงสี: เปลี่ยนให้ไว ใช้ให้คุ้ม!
- จดบันทึกชั่วโมงใช้งานของแต่ละกรองไว้เสมอ
- ตั้ง PM ชัดเจนตามประเภท: กรองอากาศ / น้ำมัน = 3,000 ชม., Oil Separator = 4,000 ชม.
- เตรียม Stock กรองพื้นฐานติดคลัง อย่างน้อย 1 ชิ้นต่อรุ่น
- ใช้ของแท้ หรือเทียบเท่า OEM ที่มีมาตรฐาน เช่นจาก SSP COMPRESSOR PART
เลือกกรองคุณภาพดีจาก SSP COMPRESSOR PART ดีกว่ายังไง?
- ✅ ไส้กรองนาโน / เส้นใยคุณภาพสูงจากเยอรมัน
- ✅ ค่า Initial Differential Pressure ≤ 0.02 Mpa
- ✅ ใช้งานได้ตรงรุ่น ไม่ต้องดัดแปลง
- ✅ รับประกันการใช้งาน 3,000–4,000 ชั่วโมง
- ✅ จัดส่งเร็ว มีทีมช่างให้คำแนะนำ
อย่าให้โรงสีหยุดเพราะกรองไม่กี่ร้อย เปลี่ยนให้ทัน แล้วคุณจะรู้ว่าความเสถียรคือกำไรที่แท้จริง
สรุป
กรองปั๊มลมอาจดูเหมือนไม่สำคัญ แต่ถ้าปล่อยให้เสื่อมจนสายการผลิตหยุด แบบนั้นไม่ใช่แค่เรื่องเล็ก แต่คือ “หายนะ” ของทั้งโรงงาน!
เช็กสัญญาณเหล่านี้ให้ดี ถ้าเจอ รีบเปลี่ยนทันที แล้วเลือกกรองคุณภาพสูงจากแบรนด์ที่คุณไว้ใจได้อย่าง SSP COMPRESSOR PART