กรองดักน้ำมัน (OIL SEPARATOR) สำคัญอย่างไร? ทำไมต้องเลือกใช้อย่างถูกต้อง

กรองดักน้ำมัน (OIL SEPARATOR) เป็นชิ้นส่วนสำคัญในระบบ ปั๊มลมแบบสกรู (Screw Air Compressor) ซึ่งมีหน้าที่กรองแยกน้ำมันออกจากลมอัด เพื่อให้ลมที่ออกมาสะอาด ไม่มีน้ำมันเจือปน ลดการปนเปื้อนและช่วยให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แต่รู้หรือไม่ว่า…หากเลือกกรองดักน้ำมันที่ไม่มีคุณภาพ อาจส่งผลกระทบต่อปั๊มลมอย่างมาก ทั้งทำให้ ต้นทุนพลังงานสูงขึ้น หรือแม้แต่ ลดอายุการใช้งานของเครื่องจักร ไปเลย! 😱


หน้าที่ของกรองดักน้ำมันในปั๊มลม

กรองดักน้ำมันเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้ปั๊มลมทำงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุด หน้าที่หลักของมันคือการแยกละอองน้ำมันออกจากลมอัด เพื่อให้ลมที่ถูกส่งออกไปมีความสะอาด ปราศจากสิ่งปนเปื้อนที่อาจเป็นอันตรายต่ออุปกรณ์ปลายทาง หากไม่มีกรองดักน้ำมันหรือใช้ไส้กรองที่ไม่มีคุณภาพ อาจส่งผลให้ลมอัดมีน้ำมันเจือปนสูง ทำให้เครื่องจักรและระบบที่ใช้ลมอัดเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ นอกจากนี้ ยังอาจทำให้เกิดแรงดันตกและเพิ่มภาระให้กับปั๊มลม ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนด้านพลังงานสูงขึ้น โดยหน้าที่ของกรองดักน้ำมันในปั๊มลมมีดังต่อไปนี้

แยกน้ำมันออกจากลมอัด – ช่วยลดการปนเปื้อนของน้ำมันในระบบ เพื่อให้ลมที่ออกมามีความสะอาดและปลอดภัยในการใช้งาน
รักษาคุณภาพของลมอัด – ลดปัญหาละอองน้ำมันติดไปกับอากาศ ซึ่งอาจส่งผลต่ออุปกรณ์ที่ใช้ลมอัด
ช่วยประหยัดพลังงาน – กรองดักน้ำมันที่มีประสิทธิภาพช่วยลดภาระของปั๊มลม ป้องกันความดันตกในระบบ ทำให้เครื่องทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและลดค่าไฟฟ้า
ลดการสึกหรอของปั๊มลม – ลดคราบน้ำมันที่อาจสะสมในระบบท่อและช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์
ช่วยลดต้นทุนการบำรุงรักษา – ป้องกันการอุดตันและสิ่งสกปรกที่อาจทำให้ปั๊มลมทำงานผิดปกติ ลดโอกาสเกิดการซ่อมแซมที่ไม่จำเป็น
แยกน้ำมันออกจากลมอัด – ช่วยลดการปนเปื้อนของน้ำมันในระบบ
รักษาคุณภาพของลมอัด – ลดปัญหาละอองน้ำมันติดไปกับอากาศ
ช่วยประหยัดพลังงาน – ป้องกันความดันตกในระบบ ส่งผลให้ปั๊มลมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ลดการสึกหรอของปั๊มลม – ลดคราบน้ำมันที่อาจสะสมในระบบท่อ


กรองดักน้ำมันทำงานอย่างไร?

กรองดักน้ำมันเป็นอุปกรณ์ที่ถูกออกแบบมาให้ดักจับและแยกน้ำมันออกจากลมอัดเพื่อให้ได้ลมอัดที่สะอาดและปราศจากน้ำมันเจือปน ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการใช้งานในระบบอุตสาหกรรมที่ต้องการลมอัดบริสุทธิ์

กระบวนการทำงานของกรองดักน้ำมันมีดังนี้:

1️⃣ ขั้นตอนแรก – ลมอัดที่มีน้ำมันเจือปนจะไหลเข้าสู่ถังแยกน้ำมัน (Oil Separator Tank) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการแยกน้ำมันออกจากลม
2️⃣ การแยกขั้นต้น – ลมอัดจะถูกนำเข้าสู่ไส้กรองดักน้ำมันที่ทำจากวัสดุพิเศษ เช่น เส้นใยแก้วหรือโพลีเมอร์ เพื่อดักจับละอองน้ำมันขนาดเล็กที่ปะปนอยู่ในลมอัด
3️⃣ การรวมตัวของละอองน้ำมัน – ละอองน้ำมันที่ถูกดักจับจะรวมตัวกันเป็นหยดน้ำมันขนาดใหญ่ขึ้น และไหลลงไปยังส่วนล่างของถังแยกน้ำมัน
4️⃣ การคืนสภาพน้ำมัน – น้ำมันที่ถูกแยกออกจะถูกส่งกลับเข้าสู่ระบบหล่อลื่นของปั๊มลม เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ ช่วยลดการสูญเสียน้ำมันและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องจักร
5️⃣ การปล่อยลมอัดบริสุทธิ์ – ลมอัดที่ผ่านการแยกน้ำมันจะถูกปล่อยออกจากระบบ โดยมีปริมาณน้ำมันตกค้างที่ต่ำมากตามมาตรฐานที่กำหนด

📢 เมื่อใช้งานไประยะหนึ่ง ไส้กรองดักน้ำมันจะเริ่มเสื่อมสภาพ ทำให้ประสิทธิภาพการแยกน้ำมันลดลง ส่งผลให้เกิดแรงดันตก (Pressure Drop) ซึ่งทำให้ปั๊มลมต้องทำงานหนักขึ้น สิ้นเปลืองพลังงานมากขึ้น ดังนั้น ควรเปลี่ยนกรองดักน้ำมันตามรอบอายุการใช้งาน เพื่อรักษาประสิทธิภาพของระบบและลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน

กรองดักน้ำมันจะถูกติดตั้งอยู่ใน ถังแยกน้ำมัน (Oil Separator Tank) โดยมี ไส้กรองพิเศษ ที่ออกแบบมาให้สามารถดักจับละอองน้ำมันที่ลอยอยู่ในลมอัด และแยกคืนกลับเข้าสู่ระบบ เพื่อนำมาใช้งานใหม่ ทำให้เครื่องสามารถใช้ น้ำมันหล่อลื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

เมื่อใช้งานไปเรื่อย ๆ ไส้กรองดักน้ำมันจะเริ่มเสื่อมสภาพ และมีอาการ แรงดันตก (Pressure Drop) ทำให้ปั๊มลมต้องทำงานหนักขึ้น สิ้นเปลืองพลังงาน มากขึ้น ดังนั้น ควรเปลี่ยน กรองดักน้ำมัน ตามรอบอายุการใช้งานเสมอ!


วิธีเลือกกรองดักน้ำมันที่เหมาะสม

การเลือกกรองดักน้ำมันที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เนื่องจากกรองดักน้ำมันมีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพของปั๊มลมและคุณภาพของลมอัด หากเลือกใช้งานไส้กรองที่ไม่มีคุณภาพ อาจส่งผลให้เกิดการอุดตันเร็วขึ้น เพิ่มแรงดันตก และทำให้ปั๊มลมทำงานหนักขึ้น ส่งผลให้สิ้นเปลืองพลังงานและอาจทำให้เครื่องจักรเสียหายเร็วกว่าที่ควร

ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเลือกกรองดักน้ำมัน

📌 คุณภาพของวัสดุไส้กรอง – ควรเลือกไส้กรองที่ทำจากวัสดุคุณภาพสูง เช่น เส้นใยแก้ว (Fiberglass) หรือวัสดุสังเคราะห์ที่สามารถดักจับละอองน้ำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
📌 ความสามารถในการกรองน้ำมัน – ค่าความสามารถในการกรองควรต่ำกว่า 3 มก./ลบ.ม. เพื่อให้ลมที่ออกมามีความสะอาดสูงสุด
📌 ตรวจสอบขนาดและสเปกให้เหมาะกับปั๊มลม – ไส้กรองต้องรองรับอัตราการไหลของลมอัดที่เหมาะสมกับปั๊มลมแต่ละรุ่น เพื่อให้เกิดแรงดันตกต่ำที่สุด
📌 ความสามารถในการรองรับแรงดัน – กรองดักน้ำมันต้องสามารถรองรับแรงดันได้อย่างน้อย 8-10 บาร์ เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
📌 ค่าความต้านทานแรงดันตก (Pressure Drop) – ค่าแรงดันตกเริ่มต้นควรอยู่ในช่วง 0.02-0.2 บาร์ หากสูงเกินไปอาจทำให้ปั๊มลมต้องทำงานหนักขึ้น
📌 รับประกันคุณภาพและอายุการใช้งาน – ควรเลือกไส้กรองที่มีการรับประกันชั่วโมงการใช้งานอย่างน้อย 3,000 – 4,000 ชั่วโมง เพื่อให้มั่นใจในประสิทธิภาพและความคุ้มค่า
📌 เลือกไส้กรองที่มีคุณภาพสูง – ผลิตจากวัสดุคุณภาพ สามารถดักน้ำมันได้ละเอียด
📌 ตรวจสอบขนาดและสเปกให้เหมาะกับปั๊มลม – ใช้กับยี่ห้อไหนก็ต้องเลือกให้ตรง
📌 ความสามารถในการรองรับแรงดัน – ปกติควรใช้กับแรงดัน 8-10 บาร์
📌 รับประกันคุณภาพ – ควรมีการ รับประกันชั่วโมงการใช้งาน เพื่อให้คุ้มค่า


วิธีดูแลรักษาและยืดอายุการใช้งาน

การดูแลรักษากรองดักน้ำมันให้มีประสิทธิภาพและมีอายุการใช้งานยาวนานเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ปั๊มลมทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ลดต้นทุนพลังงาน และลดความเสี่ยงในการเกิดความเสียหายของระบบลมอัด

วิธีดูแลรักษากรองดักน้ำมัน

เปลี่ยนไส้กรองดักน้ำมันตามรอบระยะเวลาที่กำหนด – โดยทั่วไปแนะนำให้เปลี่ยนทุก 3,000 – 4,000 ชั่วโมง หรือทุก 6 เดือน ขึ้นอยู่กับการใช้งานและสภาพแวดล้อม หากใช้งานในสภาพที่มีฝุ่นละอองหรือความชื้นสูง ควรตรวจสอบไส้กรองบ่อยขึ้น

💨 เช็คแรงดันตกของไส้กรอง (Pressure Drop) – หากพบว่าแรงดันตกสูงกว่าปกติ อาจเป็นสัญญาณว่าไส้กรองเริ่มอุดตันและควรเปลี่ยนใหม่ทันที มิฉะนั้น อาจทำให้ปั๊มลมต้องทำงานหนักขึ้นและใช้พลังงานมากขึ้น

🛠 ใช้ไส้กรองแท้ OEM หรือไส้กรองเทียบเท่าคุณภาพสูง – การใช้ไส้กรองที่ไม่มีคุณภาพอาจลดประสิทธิภาพการแยกน้ำมันและทำให้เกิดสิ่งสกปรกตกค้างในระบบ ส่งผลต่ออายุการใช้งานของปั๊มลม

🔧 หมั่นตรวจสอบและทำความสะอาดระบบเป็นประจำ – ตรวจสอบสภาพของไส้กรองและระบบแยกน้ำมันว่ามีคราบน้ำมันสะสมมากเกินไปหรือไม่ หากพบการอุดตันควรล้างทำความสะอาดหรือเปลี่ยนอะไหล่ที่จำเป็น

📌 ตรวจสอบระดับน้ำมันในระบบลมอัด – น้ำมันที่มากหรือน้อยเกินไปอาจส่งผลต่อการทำงานของกรองดักน้ำมัน ควรรักษาระดับน้ำมันให้เหมาะสมกับคู่มือการใช้งานของปั๊มลม

📢 อย่าปล่อยให้ไส้กรองหมดอายุการใช้งาน – การใช้ไส้กรองที่หมดอายุอาจทำให้ระบบแยกน้ำมันทำงานได้ไม่เต็มที่ ทำให้มีน้ำมันเจือปนในลมอัดและส่งผลเสียต่อเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้ลมอัด

ข้อดีของการบำรุงรักษากรองดักน้ำมันอย่างสม่ำเสมอ

ช่วยให้ปั๊มลมทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
ลดต้นทุนด้านพลังงานและการบำรุงรักษา
ลดความเสี่ยงในการเกิดความเสียหายของปั๊มลมและระบบลมอัด
ยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ในระบบ
เพิ่มคุณภาพของลมอัดที่ได้ ทำให้ไม่มีสิ่งเจือปน

หากต้องการให้ปั๊มลมของคุณทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ควรดูแลและบำรุงรักษากรองดักน้ำมันอย่างเคร่งครัดตามรอบระยะเวลาที่กำหนด

เปลี่ยนไส้กรองดักน้ำมันตามรอบ – ทุก 3,000 – 4,000 ชั่วโมง หรือ 6 เดือน
💨 เช็คแรงดันตกของไส้กรอง – หากสูงเกินไปควรเปลี่ยนทันที
🛠 ใช้ไส้กรองแท้ OEM หรือเทียบเท่าคุณภาพสูง – ลดปัญหาลมอัดไม่สะอาด
🔧 หมั่นตรวจสอบระบบเป็นประจำ – ป้องกันการอุดตันและลดภาระการทำงานของปั๊มลม


กรองดักน้ำมันคุณภาพสูง ต้องที่ SSP COMPRESSOR PART

Oil-Separator

หากคุณกำลังมองหา กรองดักน้ำมันคุณภาพสูง ที่ ประสิทธิภาพเทียบเท่าของแท้ แต่ราคาคุ้มค่า 👉 SSP COMPRESSOR PART มีให้เลือกหลายรุ่น รองรับปั๊มลมทุกยี่ห้อ

🔹 ไส้กรองเกรดพรีเมียม – วัสดุนำเข้าจากเยอรมัน
🔹 รับประกันการใช้งาน 4,000 ชั่วโมง
🔹 ช่วยประหยัดพลังงาน ลดต้นทุนการบำรุงรักษา
🔹 พร้อมจัดส่งทั่วประเทศ ภายใน 24 ชั่วโมง 🚚

📞 สนใจสั่งซื้อ ติดต่อเราได้เลยที่ 0651905999
👉 SSP COMPRESSOR PART – จัดส่งทันใช้ ใส่ใจบริการ คุ้มงบประมาณแน่นอน!


สรุป

กรองดักน้ำมันเป็นชิ้นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ปั๊มลมทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ลดต้นทุนพลังงาน และยืดอายุการใช้งานของเครื่องจักร การเลือก ไส้กรองคุณภาพสูง จากแบรนด์ที่เชื่อถือได้อย่าง SSP COMPRESSOR PART จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเดินหน้าได้อย่างมั่นใจ 💪✨

 

ติดต่อเราเพื่อขอคำปรึกษาฟรี

 

📞 098-507-2241 📞 065-190-5999